วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Learning Log 1(ในห้องเรียน)


Learning Log 1(ในห้องเรียน)


จากการที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน  ได้เรียนรู้สองประเด็นใหญ่คือ Comprehensible Input และ Tenses (กาล)
1. Comprehensible Input = I + 1 I คือ นักเรียน ซึ่งนักเรียนแต่ละคนจะมีประสบการณ์เดิมและกระบวนการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ส่วน + 1 คือ ครูผู้สอน ครูผู้สอนจะทำหน้าที่ให้ความรู้แก่นักเรียนซึ่งครูจะต้องให้ความรู้เพิ่มขึ้นมา 1 ระดับ จากความรู้ที่นักเรียนมีอยู่ เพราะถ้าหากครูเพิ่มในระดับ 2, 3, 4 จะทำให้ผู้เรียนมีช่องว่างของความรู้มากซึ่งทำให้ผู้เรียนไม่เข้าใจในเนื้อหา
สรุปได้ว่า Comprehensible Input เป็นกระบวนการที่ครูและนักเรียนต้องมีความสัมพันธ์กันโดยครูจะต้องรู้ว่านักเรียนแต่ละคนมีความแตกต่างทางด้านความรู้มากน้อยเพียงใด และที่สำคัญครูต้องรู้ Background knowledge ของนักเรียนแต่ละคนเพื่อง่ายในการสอน
2. Tenses (กาล) เป็นคำกริยาในประโยคภาษาอังกฤษ จะบอกการกระทำให้ทราบว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เกิดขึ้นแล้วหรือจะเกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นในอดีตและกำลังต่อไปอยู่ในปัจจุบัน คำกริยาในประโยคภาษาไทยไม่บอกกาล
ยกตัวอย่างภาษาอังกฤษ 2 ประโยคต่อไปนี้
1.             He lived in Lampang for a year. ใช้กริยาเป็น Past Simple มีความหมายว่าเขาเคยอยู่ลำปางมาก่อน 1 ปี อยู่เมื่อไหร่ไม่ทราบ ทราบแต่ว่าอยู่มาก่อนเวลาที่จะพูดถึงและเดี่ยวนี้เขาไม่ได้อยู่แล้ว
2.             Have has lived in Lampang for a year ใช้กริยาเป็น Present Perfect  มีความหมายว่า เขาอยู่ลำปางมาแล้ว 1 ปี เดี่ยวนี้เขาก็ยังอยู่
สรุปได้ว่า รูปของประโยคในภาษาอังกฤษทั้งสองประโยคไม่มีคำขยายใดๆบอกให้รู้ว่าเขาเคยอยู่หรืออยู่มาแล้วแต่มีสิ่งที่บอกคือ รูปของกริยาที่ใช้กาลต่างกัน ในภาษาไทยรูปของกริยาไม่บอกกาลให้เราทราบ ดังนั้นเวลาแปลจึงจำเป็นต้องเติมคำขยายเข้าไป เพื่อให้ความหมายตรงกับภาษาอังกฤษ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น